ยุงหิวโหย.. อาหาร จึงออกหาเลือดอุ่น ๆ รองท้อง คนหิวโหย.. ความรัก จึงออกตามหารักอุ่น ๆ รองใจ ศิลปะการดื่มเลือดของยุง คือ ค่อย ๆ ย่อง อุ๊ย!! บินซิเนอะ บินเข้าไปในมุมมืด บรรจงแทงปากทะลุทลวงผ่านผิว เข้าไปดูดเลือดอุ่น ๆ ของคุณ โดยคุณไม่รู้ตัว ศิลปะความรัก คือบรรจงแทรกแซง ชอนไช ทะลุทลวงความรู้สึก เข้าไปฝังลึกอยู่ในหัวใจ ของคุณอย่างช้า ๆ อบอุ่นในหัวใจ โดยคุณไม่รู้ตัว กว่าคุณจะรู้ตัว รักก็มากมายเกินห้ามใจ ยุงตัวไหน ปากหนัก กัดเจ็บ บินไม่เร็วพอ บินไม่รู้จังหวะ บินผิดมุมให้คนเห็นหรือรู้ตัวก่อน ถึงฆาตมาแล้ว กว่า 90 % น้อยนักที่จะรอดฟันฝ่ามือพิฆาตและไบกอนเขียวไปได้ คนคนไหน ไม่เคยรัก ไม่รู้จักรัก จีบไม่เป็น ไม่มีโอกาส ไม่รู้กาละเทศะ และเหตุผลอีกมากมาย นานับประการที่จะหยิบมาเอ่ยอ้างถึง ความไม่สันทัดจัดเจนเรื่องรัก ก็น้อยนักที่จะรอดพ้น อาการแห้วไปได้ พอยุงกินอิ่มหนำก็บินจากไป และพร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อโหยหิว ก็เหมือนรักของคนเจ้าชู้อิ่มหนำแล้วก็ผ่านไป แต่จะกลับมาใหม่เมื่อโหยหา ถึงจะถูกตบ ถูกฉีดยา ถ้าไม่ตายเสียก่อน พร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อหิวอีกครา ไม่เข็ดแฮะ ก็เหมือนคน เจ็บช้ำสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ถึงตาย หัวใจก็ยังโหยหารักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถึงจะกางมุ้ง จุดยากันยุง หรือติดมุ้งลวด ยุงก็ยังคงเข้ามาได้อยู่ดีแหละ ความรักก็เหมือนกัน ห้ามใจเท่าไหร่ หลีกหนียังไง รักก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้อยู่ดี

[K]ar[F]ew060!!

IT'3[K]ar[F]ew060!!

ทราบหรือไม่ว่า ทำไมคนเราเวลานอนหลับถึงฝันได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...

นักจิตวิทยาในช่วงศตวรรษที่ 19 หรือ 80-90 ปีที่ผ่านมา ได้ศึกษาเรื่องความฝันอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิต ไม่ใช่ลางบอกเหตุในอนาคต กลับจะเป็นตัวบ่งชี้ความนึกคิดก่อนฝันเสียด้วยซ้ำ อย่างทฤษฎีของซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชาวยิวที่ไปอยู่เยอรมัน แล้วเสียชีวิตที่ออสเตรเลีย ถือเป็นนักจิตวิทยาที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก กล่าวไว้ว่า ความฝันเกิดจากจิตใต้สำนึกของคนเรา ซึ่งเป็นแรงผลักดันจาก Id หรือ อิด ซึ่งหมายถึงสัญชาตญาณที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและเป็นความแตกต่างระหว่างบุคคล ส่วนจิตใต้สำนึกคือความคิด ความรู้สึกที่เราไม่รู้ พูดง่าย ๆ อีกได้ว่าความคิดความรู้สึกที่ไม่รู้คือจิตใต้สำนึก ส่วนที่รู้ก็ไม่เรียกจิตใต้สำนึก ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่เราตื่นอยู่เราไม่ได้คิดถึงฐานะความเป็นอยู่ แต่กลับฝันว่ามีเงินทองร่ำรวยและมีความสุขมาก นั่นแสดงว่าความรู้สึกลึก ๆ ของเราอยากรวยนั่นเอง

ฟรอยด์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ความฝันอาจเกิดจากความต้องการที่ไม่ได้รับการสนองตอบ ทำให้เกิดความคับข้องใจหรือเก็บกด จึงระบายออกมาเป็นความฝัน เช่น ตั้งใจว่าอยากไปดูฟุตบอลยุโรปทัวร์นาเม้นต์ต่าง ๆ ในสนามจริง ๆ ถึงช่วงฮอต ๆ เช่น บอลโลก บอลยูโร ก็เกิดความอยากอยู่เรื่อย เลยเก็บเอาไปฝัน กรณีนี้รวมไปถึงการหลงไหลได้ปลื้มใครสักคน โดยอาจจะนำไปฝันถึงสาวที่ปิ๊งอยู่ก็ได้ ส่วนการทำนายฝันตามตำราน่าจะเป็นศาสตร์คล้าย ๆ กับการทำนายดวงหรือหมอดู

เคล็ดลับดีดี...ของยาสีฟัน

มีเคล็ดลับๆ...แบบไม่ลับของยาสีฟันมาบอกต่อกันคร่ะ

ประโยชน์ดีดีของยาสีฟัน ซึ่งเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันที่หาได้ง่าย และมีแทบจะทุกบ้านส่วนในเรื่องประโยชน์ของยาสีฟันนั้นก็มีมากมายด้วยกันอ่ทิเช่น

- ทำความสะอาดคราบและรอยขีดข่วนบนพื้นผิววัสดุ ขัดหน้าปัดนาฬิกาแตะกับเศษผ้าสักหลาดแล้วขัดเบาๆ

- ช้อนส้อมสเตนเลส ขัดถูด้วยผ้านุ่ม

- รอยขีดข่วนบนกระจกปูโต๊ะ ป้ายที่รอยแล้วใช้ผ้านุ่มขัดเบาๆ

- เครื่องประดับเงินแท้ แตะสำลีหรือผ้านุ่มๆขัดถูใช้เศษยาสีฟันที่ร่วงขณะแปรงฟันขัดถูหัวก็อกจะเงาเป็นประกาย

- บรรเทาอาการแสบร้อน เช้่นโดนน้ำร้อนลวก,ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์

- คราบลิปสติกที่ติดเสื้อ ใช้ยาสีฟันทารอยเปื้อนแล้วซักตามปกติ

- กลิ่นแรงที่ติดมือหลังทำครัว

อย่างกลิ่นกระเทียม/หอมแตะยาสีฟันเล็กน้อยแล้วล้างมือกับสบู่กลิ่นจะหายไปลองทำดูนะคะ

ทำไม???ดวงอาทิตย์เช้าเย็นจึงดูดวงใหญ่

เป็นเพราะตอนเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตอนเย็นที่ดวงอาทิตย์ตกนั้นมีขนาดของบ้านหรือภูเขาให้เปรียบเทียบ ทำให้ดูดวงอาทิตย์ใหญ่กว่าปกติ ซึ่งตอนเที่ยงไม่มีอะไรเปรียบเทียบเลยรู้สึกว่าเล็ก

และที่เราเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีแดงในตอนเช้าและเย็นนั้น เกิดจากในตอนเช้าหรือเย็น ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้า แสงอาทิตย์จะต้องส่องผ่านบรรยากาศในทางระดับที่หนากว่าเมื่ออยู่ตรงศีรษะ ยิ่งใกล้ขอบฟ้าโมเลกุลของอากาศและฝุ่นละอองก็ยิ่งหนาแน่น ทำให้คลื่นแสงที่มีช่วงคลื่นสั้นกระจายไปทางด้านข้างหมด คลื่นแสงสีแดงและสีส้มที่มีขนาดช่วงคลื่นยาวเท่านั้นที่ผ่านทะลุมาถึงตาเราได้ ดังนั้นในตอนเช้าและเย็นจึงมองเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีแดง

ทำไม???กระดุมเสื้อชายหญิง ถึงอยู่คนละด้าน

ทำไม..กระดุมเสื้อชายหญิง ถึงอยู่คนละด้าน..

เดิมกระดุมเสื้อของผู้หญิงและของผู้ชายจะติดไว้ทางด้านซ้ายของเสื้อเหมือนกัน เพราะคนส่วนใหญ่จะถนัดขวา เพื่อให้มือขวากลัดกระดุมทางด้าน

ซ้ายได้สะดวกส่วนสาเหตุที่กระดุมเสื้อผู้ชายต้องเปลี่ยนตำแหน่งจากซ้ายมาขวา เพราะสมัยก่อนผู้ชายนิยมห้อยดาบไว้ทางสะโพกซ้าย เวลาเกิดเรื่อง

ราวจะต้องชักดาบโดยเร็ว ปรากฏว่าด้ามดาบมักเข้าไปขัดอยู่ในช่องว่างระหว่างกระดุมเสื้ออยู่บ่อยๆ กว่าจะแกะดาบออกมาได้ก็อาจถูกคู่ต่อสู้ทำร้าย

เสียก่อนผู้ชายจึงให้ผู้หญิงย้ายกระดุมมาอยู่ทางขวาเสียเวลากลัดกระดุมก็เอาด้านซ้ายของเสื้อมาทับบนด้านขวาแทน ทีนี้เวลาชักดาบออกดาบก็ไถล

ผ่านเสื้อไปได้โดยสะดวก ส่วนเสื้อผู้หญิงนั้นกระดุมอยู่ทางซ้ายเหมาะที่สุดเพราะผู้หญิงสมัยก่อนต้องเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วย โดยแม่จะอุ้มลูก

ด้วยมือซ้ายเพื่อมือขวาจะได้ทำงานต่างๆ ได้ถนัด ตลอดจนเพื่อความสะดวกในการแกะกระดุมเวลาให้นมลูกอีกด้วย

Open Case: A Tale of Two Countries
(or How E-business Kept a Groom out of Hot Water)

Note: The following story is true. The names have been changed to protect the innocent (Sally) and the guilty (Jim)
Jim and Sally were engaged to be married in August. In order to help pay for the wedding and the subsequent honeymoon in Australia, Jim decided to take a short-term assignment in India during that same summer. While that meant that he would be out of the country for the last part of the wedding planning process, Sally agreed that the extra money would be worth it. (Of course, Jim was secretly glad to miss as much of the planning as possible. What he did not know was that Sally was also happy to have him absent for the last minute planning!)
So, Jim flew to Bangalore, India that July, happy in the knowledge that the trip was undertaken with the blessing of his bride-to-be. After two weeks in Bangalore, Jim realized to his immediate horror that Sally’s birthday would occur in just a few days. Woops! Although Jim had already purchased some very nice jewelry for Sally from a local (Indian) craft emporium, there was no practical way to get it to her in time for her birthday. Jim was dumb enough to have almost forgotten his fiancée’s birthday, but he was smart enough to know that he had better have a nice gift on her doorstep by her birthday.
Jim gave the crisis considerable thought. Then a possible solution occurred to him. What about buying something online? He remembered buying a book while on a long trip the previous summer. It was no problem for the bookseller to ship the book to any address Jim requested.
Seeing salvation in sight, Jim connected to the Internet and directed his Web browser to his favorite bookseller, “Bucket-o-Books.” He thought for a moment, and then used the Web site’s search function to look for books on Australia, the site of the upcoming honeymoon. Fortunately, Buckets has a good selection of travel books, and several potential gifts for Sally showed up in the search results. Jim read the online reviews from other Bucket customers. One of the books had almost unanimously favorable reviews so Jim clicked on the “add-to-cart” button.
Jim then clicked on the “view cart” button. The contents of his online shopping cart popped up on his monitor. He verified that the correct book was shown, and then went on to change the ship-to address to Sally’s home address. Jim was also quite happy to see that Buckets would gift wrap the book, and would even add a gift cart with a personal message from Jim. Jim pondered a few moments and came up with a nice sentiment for the card, type the message in the appropriate box on the Web-based form, clicked “submit” and waited for an order confirmation screen to appear. After a few moments, the confirmation screen appeared, indicating that all had gone well with the purchase. Jim sighed with relief. Crisis averted.
A couple of days before Sally’s birthday, Jim began wondering if the book had made it to Sally yet. He went back to the Buckets Web site and navigated to the customer service section, which allowed him to check the status of the shipment online. After a couple of minutes, Jim found the right area on the Web site and used the tracking number in an e-mail from Buckets that confirmed his order. Jim entered the number, clicked on “check status,” and in a few minute saw that the package was delivered the previous day. E-business to the rescue!